วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ฺฺBacteria



 Shigella spp. 


           โรคบิดชิเกลล่า (shigellosis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียใน Genus Shigella จัดอยู่ใน Family Enterobacteriaceae เป็นแบคทีเรียที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ชนิดแกรมลบ รูปท่อน ต้องการออกซิเจนในการดำรงชีวิต และไม่สร้างสปอร์
                เชื้อชิเกลล่าเป็นแบคทีเรียก่อโรคลำไส้ที่สำคัญ และรู้จักกันดีมาเป็นเวลานาน โดยในครั้งแรกเชื้อชิเกลล่าถูกจัดให้เป็นกลุ่มที่เกิดโรค bacillary diarrhea (dysentery) มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 19 โดยเป็นสาเหตุให้เกิดอาการถ่ายอุจจาระมีเลือดออก และไม่มีเลือด โดยปกติมักพบสาเหตุเริ่มมาจากการแพร่ทางน้ำ ส่วนใหญ่พบในอุจจาระ การติดเชื้อเกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีเชื้อปนอยู่ จำนวนเชื้อที่กินเข้าไปเพียงเล็กน้อยประมาณ 200-1,000 ตัว ก็สามารถก่อโรคได้ ซึ่งต่างจากเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินอาหารชนิดอื่นๆ ที่ต้องใช้ปริมาณมากกว่า เชื้อสามารถเข้าไปแบ่งตัวและสามารถทำลายเซลล์เยื่อบุลำไส้ใหญ่ เมื่อเซลล์ตายจะทำให้เกิดการอักเสบ เป็นหนอง และเกิดแผลในลำไส้

     สาเหตุ
              genus shigella ในปัจจุบันนี้ ประกอบด้วย 4 สายพันธ์ คือ subgroup A (shigella dysenteraie) แบ่งออกเป็น 12 type: , subgroup B (shigella flexneri)แบ่งออกเป็น 6 type และยังแบ่งย่อยออกเป็น subserotype 9 subserotype, subgroup C (shigella boydii) แบ่งออกเป็น 18 type และ subgroup D (shigella sonnnei) แบ่งออกเป็น 2 phase สำหรับ subgroup A, B และ C ยังแบ่งต่อไปอีก 40 serotypes โดยเขียนเรียงตามตัวเลขอารบิค ลักษณะจำเพาะของ plasmid มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงของโรค

ระบาดวิทยาของโรค
              พบได้ทั่วโลก สองในสามของผู้ป่วยและผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี โดยเฉพาะในระยะที่กำลังหย่านม การเจ็บป่วยในเด็กทารกอายุต่ำกว่า เดือนพบไม่บ่อยนัก การติดเชื้อภายในบ้านเดียวกันพบได้บ่อยมาก คือพบตั้งแต่ร้อยละ 10 ถึง 40 การระบาดเกิดได้บ่อยในชุมชนแออัดและสุขาภิบาลไม่ดี เช่น คุก โรงเรียน ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก โรงพยาบาลโรคจิตประสาท ที่พักแรมที่อยู่แออัด เรือเดินทางข้ามประเทศ เขตชุกชุมของโรคนี้มีทั้งในเขตร้อน และเขตอบอุ่น ผู้ป่วยที่ได้รับรายงานนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยของผู้ป่วยทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นประเทศพัฒนาแล้วก็ตาม โดยปกติพบว่ามีการติดเชื้อมากกว่า 1 serotype ในชุมชน สามารถพบการติดเชื้อร่วมกับเชื้อตัวอื่น ๆ ที่ก่อโรคในลำไส้ เชื้อที่แยกได้ในประเทศกำลังพัฒนาคือ S. boydii, S. dysenteriae และ S.flexneri ในประเทศพัฒนาแล้ว พบเชื้อ S.sonnei บ่อยมากขณะที่ S.dyserteriae ไม่ค่อยพบ




การติดต่อ
             จากการกินสิ่งปนเปื้อนอุจจาระของผู้ป่วยหรือผู้เป็นพาหะ อาจเป็นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้เพียงแต่กินเชื้อเข้าไปจำนวน 10-100 ตัว ผู้ติดเชื้อส่วนมากจะเป็นพวกที่ไม่ทำความสะอาดมือหลังจากถ่ายอุจจาระ การแพร่เชื้อโดยการสัมผัสทางตรงกับสิ่งของต่าง ๆ หรือสัมผัสทางอ้อมกับอาหาร ส่วนการแพร่เชื้อผ่านทางน้ำและอาหารโดย แมลงสาบ และแมลงวัน เกิดขึ้นได้จากสัตว์เหล่านี้นำเชื้อมาปนเปื้อน

ระยะฟักตัว
1-7 วัน ที่พบบ่อยคือ 1-3 วัน
ระยะติดต่อ
          ตั้งแต่ระยะติดเชื้อเฉียบพลันจนกระทั่งไม่พบเชื้อในอุจจาระ ซึ่งอาจจะนานถึง 4 สัปดาห์หลังการเจ็บป่วย พวกพาหะที่ไม่มีอาการสามารถแพร่เชื้อได้ แต่โอกาสที่เชื้อจะอยู่นานเป็นหลาย ๆ เดือนนั้นมีน้อย




อาการและอาการแสดง
           ไข้สูง อาจเกิน 38.50C นำมาก่อน 2-3 วัน เด็กอาจมีอาการชักร่วมด้วยปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ในวันแรกๆ วันต่อมาถ่ายเป็นมูกปนเลือดเหนียวๆ ซึ่งจะแยกมูกเลือดออกจากเนื้ออุจจาระเห็นได้ชัดเจน อาการท้องเดินและถ่ายเป็นมูกเลือดเกิดเนื่องจากเชื้อผ่านเข้าสู่ผนังลำไส้ ไม่ได้เกิดจากท็อกซิน ปวดเบ่ง มีอาการเหมือนถ่ายไม่สุด ถ่ายกระปริดกระปรอย อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน


การวินิจฉัยโรค
           ทำได้โดยการแยกเชื้อจากอุจจาระหรือ rectal swab การดำเนินการทางห้องปฏิบัติการอย่างถูกต้องกับสิ่งส่งตรวจและใช้อาหารเลี้ยงเชื้อหลายๆ ชนิด พบว่าสามารถเพิ่มการแยกเชื้อ Shigella ได้ การติดเชื้อมักเกิดร่วมกับการพบหนองในอุจจาระ

การรักษา
           การวินิจฉัยได้แต่แรกมีความสำคัญ การให้น้ำและสารเกลือแร่เพื่อชดเชย เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุด ยาปฏิชีวนะช่วยทำให้ระยะเวลาของการป่วยและการพบเชื้อในอุจจาระสั้นลง และควรเลือกใช้เฉพาะรายเมื่อมีเหตุผลสมควรในแง่ของความรุนแรงของการเจ็บป่วย หรือเพื่อป้องกันผู้สัมผัส เช่น ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือสถาบันต่าง ๆ ที่มีข้อบ่งชี้ทางระบาดวิทยาพบการดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลาย ๆ ตัวได้บ่อย ดังนั้นการเลือกใช้ยาสำหรับเชื้อควรอาศัยผล antibiogram ของเชื้อที่แยกได้ หรือใช้ตาม antimicrobial susceptibility pattern ในท้องถิ่นนั้น และห้ามใช้ยาเพื่อลดการเคลื่อนไหวของลำไส้
เมื่อเพาะเชื้อจากอุจจาระพบเชื้อ Shigella spp. ยาปฏิชีวนะที่ให้
ในเด็กให้
  Norfloxacin 20 มก./กก./วัน นาน 3 วันหรือ
  Cotrimoxazole (trimetroprim)10 มก./กก./วัน นาน 5 วัน
  Furazolidone 5-8 มก./กก/วัน นาน 5 วัน
ในผู้ใหญ่
  Norfloxacin 800 มก.ต่อวัน นาน 3-5 วันหรือ
  Ciprofloxacin 1,000 มก.ต่อวัน นาน 3 วัน
  Cotrimoxazole160/800 มกวันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน
การเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วย
การป้องกันและควบคุมโรค

การป้องกัน
1 สุขวิทยาส่วนบุคคลที่ถูกต้อง
ล้างมือฟอกสบู่ ภายหลังเข้าห้องน้ำ
ไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยโรคบิดเข้าทำงานสัมผัสอาหาร
ระวังการแพร่เชื้อให้คนอื่น โดยถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
ล้างมือให้สะอาดก่อนเปิบข้าว และหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง
ควรแยกสำรับอาหารจากคนอื่น หรือถ้าจำเป็นต้องกินร่วมกับคนอื่น ควรใช้ช้อนกลาง
เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และเครื่องใช้ส่วนตัว อย่าใช้ปะปนกับคนอื่น






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น